วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เค้กบราวนี่


ฝรั่งเป็นชาติที่นิยมชมชอบบริโภคขนมอบ ชนิดต่างๆ มาก ประกอบกับ ช่วงสภาพอากาศหนาวเย็นกินระยะเวลาที่ยาวนาน คุณแม่บ้านส่วนใหญ่ จึงมักเข้าครัวอบขนมอุ่นๆ จากเตาให้สมาชิกในครอบครัวได้กินร่วมกัน ขนมอบสุดคลาสสิกที่มีมาแต่นมนาน ได้แก่ เค้ก คุกกี้ และขนมปัง แต่ในยุคหลังๆมีน้องใหม่อย่าง บราวนี่ พัฟ และพาย มาช่วยเพิ่มสีสันความหลากหลาย บราวนี่ (brownie) ขนมชิ้นสี่เหลี่ยมสีน้ำตาลเข้ม ถูกจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ของคุกกี้ ภาษาอังกฤษเรียกว่า sheet cookies หรือ คุกกี้แผ่น ที่มีลักษณะคล้ายเค้กช็อกโกแลตเข้มข้นแต่เนื้อแน่นกว่ามากและไม่เบาฟูเหมือนอย่างเค้ก นัยว่าเพราะใส่ผงฟูน้อย ขนมเค้กส่วนใหญ่นั้นเป็นก้อนกลม แต่บราวนี่กลับเป็นเค้กช็อกโกแลตที่อบในถาดแบนรูปสี่เหลี่ยมสูง 1 นิ้วกว่าๆ แล้วตัดแบ่งเป็นชิ้นลักษณะสี่เหลี่ยม ขนาดพอเหมาะ เอกลักษณ์ของบราวนี่ก็อยู่ตรงที่เนื้อแน่นและเป็นเค้กตัดนี่แหละ แม้ว่าที่มาของบราวนี่จะไม่ชัดเจน แต่นักประวัติศาสตร์อาหารสันนิษฐานว่า เจ้าขนมรูปทรงสี่เหลี่ยมนี้เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่แรกตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 กล่าวกันว่า บราวนี่เกิดจากความบังเอิญในการทำเค้กช็อกโกแลตโดยลืมใส่ผงฟู อบออกมาแล้วเค้กไม่ขึ้นฟู แต่กลับได้ขนมสีน้ำตาลเข้มเนื้อแน่น อันเป็นที่มาของชื่อ “brownie” นั่นเอง นับได้ว่า " ความหลงลืม ความผิดพลาดเป็นปัจจัยผลักดันความก้าวหน้า " ให้ขนมชนิดนี้ถือกำเนิดขึ้นบนโลก ชื่อของ brownie ปรากฏขึ้นครั้งแรกบนสื่อสิ่งพิมพ์ใน Sears, Roebuck and Company Catalog เมื่อปี ค.ศ.1897 ต่อมาไม่นานก็พบว่ามีสูตรการทำบราวนี่ตามตำราอาหารต่างๆด้วย อาทิเช่น Boston Cooking-School Cook Book, The Joy of Cooking จนคนรู้จักบราวนี่แพร่หลายขึ้น เป็นที่นิยมทำกินกันตั้งแต่ ค.ศ.1920 เป็นต้นมา

ไม่มีความคิดเห็น: